นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง ผู้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังชะลอตัว และประเทศไทยมีเงินทุนไหลออกอันดับต้นๆ ในอาเซียน ทำให้ปัจจุบันยังอยู่ในสภาวะที่ขยับตัวไม่คล่อง เงินงบประมาณยังไม่ออก และเงินลงทุนจากภาครัฐยังน้อย ทำให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายังเห็นภาพการใช้เงินของผู้บริโภคน้อย มีการเลือกซื้อแบรนด์ที่รู้จักมากขึ้น ทำให้สินค้าใหม่ๆ ในตลาดประสบความสำเร็จน้อยมากคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะที่ภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 43,000 ล้านบาท เติบโต 3% ซี่งเป็นการเติบโตของขนมขบเคี้ยวในบางกลุ่มเท่านั้น อาทิ กลุ่มถั่ว ปลาอบ ขนมขึ้นรูปยังเติบโต ส่วนกลุ่มมันฝรั่งไม่เติบโต เนื่องจากในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ผู้บริโภคจะนิยมซื้อสินค้าราคาถูกโดยเฉพาะ 5 บาท ซึ่งผู้เล่นหลักที่เน้นจำหน่ายราคา 20 บาทขึ้นไปทำให้จำหน่ายได้ในปริมาณน้อย
สำหรับศรีนานาพร ในช่วงที่ผ่านมาเน้นจำหน่ายขนมขบเคี้ยวในราคา 5-10 บาท ทำให้ยังตอบโจทย์ผู้บริโภคทำให้ปี 66 มีรายได้ถึง 6,049 ล้านบาท มาจากขนมขบเคี้ยวแบรนด์เบนโตะและโลตัสเป็นหลัก สัดส่วน 57% และเครื่องดื่มประเภทเยลลี่ 43% และมีกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท ซึ่งมาจากการทำตลาดในประเทศ 73% และต่างประเทศในซีแอลเอ็มวี 27% โดยเวียดนามถือเป็นตลาดหลักที่ได้เข้าไปเปิดโรงงานเพื่อส่งออกไปในประเทศใกล้เคียง
ล่าสุด ปีนี้ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้แบรนด์ เจเล่ฟิตต์เยลลี่รสผลไม้ จับกลุ่มเป้าหมาย 20-49 ปี ซึ่งทำให้หลังจากนี้บริษัทมีธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก คือ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม และกลุ่มอาหารเสริม ที่ปัจจุบันตลาดดังกล่าวมีการเติบโตมีมูลค่า 87,000 ล้านบาท เติบโต 10% ในปี 66 ซึ่งเมื่อแบ่งเป็นกลุ่มอาหารเสริมที่เน้นคุณประโยชน์สุขภาพโดยรวมจะมีสัดส่วน 29% หรือประมาณ 25,230 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทมีรายได้ไปถึงเป้าหมายปี 69 ที่ 8,000 ล้านบาทได้แน่นอนคำพูดจาก เว็บปั่นสล็อต
